"ภาพที่น่าเก็บไว้ในความทรงจำ ผอ.หรรษา-พระหนุ่มไฟแรงหักมุมมาเป็นพระสอนกรรมฐาน ณ ศูนย์สันติศึกษา
- banjobchannel
- Nov 15, 2016
- 1 min read

@ ผมได้ภาพนี้มาจากมีผู้ส่งมาให้ต่างกรรมต่างวาระกัน แต่น่าประทับใจทั้งสองภาพเลยขอก็อปปี้มาโพสต์ลงในเฟชบุคของผมฝากถึงนักเล่นเฟชบุคได้ช่วยรับรู้ในมุมมองที่สวยงามในฐานะมนุษย์ร่วมโลกที่จะต้องอยู่ด้วยกัน
@ ภาพแรก พระมหาหรรษา ธัมมหาโส (รศ.ดร.) ผอ.โครงการหลักสูตรสันติศึกษา และ (กำลังจะ)เป็น ผอ.วิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ ปัจจุบัน ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาผม เห็นท่านทำงานแล้วลูกน้องอย่างผมเหนื่อยแทน
ท่านเป็นแบบอย่างของการพัฒนาตนได้ดีเยี่ยม ...เมื่อก่อนเป็นพระหนุ่ม(กว่านี้)เรียนหนังสือเก่ง มีความอยากเด่นอยากดังไปตามเรื่อง จบปริญญาเอกได้เป็นรองศาสตราจารย์ สังคมทางวิชาการเริ่มกว้าง สมัครเรียนสถาบันพระปกเกล้าได้พบกับคนเด่นคนดังหลายคน เช่น ศ.ดร.บวรศักดิ์ อุวรรโณ ราชบัณฑิต ศ.วิชา มหาคุณ มือปราบแห่ง ปปช. แล้วยังบินข้ามฟ้าไปเรียนภาษาอังกฤษถึงถิ่นเจ้าของภาษา ๑ ปี กลับมาพูดได้คล่องทีเดียว...ตอนนี้ เริ่มมีอีโก้นิดๆ ลีลาแอ็คชั่นเริ่มกระเดียดไปทางโลกๆไม่สอดคล้องกับเพศภาวะ
แต่จู่ๆ ก็กลับลำกระทัน ถ้าเป็นรถก็ต้องว่า เลี้ยวกลับเข้าเลนกระทันหันจนผู้โดยสารตั้งตัวไม่ทันหัวทิ่มกัวตำกันไปทั้งคัน ...เพราะเห็นท่านห่มผ้าสีกรักเข้ม เวลาเข้าประชุมจะพูดน้อยกว่าแต่ก่อน ฟังเป็นส่วนมาก ลีลาแอ็คชั่นช้าลง เหมือนจะระมัดระวัง แต่สีหน้าไม่เครียด ส่วนมากมีรอยยิ้มระบายให้เห็นทั้งจากสีหน้าและแววตา หลายคนเรียกท่านว่า "สะยาดอ" สำหรับไทยหมายถึง พระที่ปฏืบัติกรรมฐานสายพม่า ที่เรียกอย่างนั้นมีทั้งยกย่องและหยอกล้อ
แต่สำหรับ พระหนุ่มรูปนี้ คงไม่ใช่เล่นๆแล้วหละ เพราะท่านเปิดเผยการปฏิบัติแบบเอาจริง มุ่งปฏืบัติส่วนตน มุ่งสอนทำหลักสูตรสันติศึกษาให้เข้มแข็ง ออกบรรยายสอนกรรมฐาน
ไม่น่าเชื่อว่า ชั่วเวลาที่หักมุมชีวิตจากพระนักวิชาการไปเป็นพระปฏิบัติสายสะยาดอไม่นาน ท่านก็ซึมซับและพัฒนาชีวิตตามทางสายปฏิบัติได้ดี อาศัยที่มีความรู้ทางโลกมามาก ท่านเลยสามารถนำมาปรับใช้ในการบรรยายสอนกรรมฐานได้ดี ดูตัวอย่างที่ท่านบรรยายให้นักศึกษาคริสต์กับมุสลิมฟังก็น่าทึ่ง แสดงความเป็นสากลของกรรมฐานในพระพุทธศาสนา ที่สามารถเรียนได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนศาสนา..ไม่ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต มีแต่วิธีคิดเท่านั้นที่เปลี่ยน คือ "คิดอยู่ร่วมกับคนต่างศาสนาได้" ไม่ต้องถึงขั้นบังคับใครให้ต้องมาออกกฏหมายให้ยอมรับ "อัตลักษณ์" ของฉัน แล้วเอาไปสร้างความแตกแยก

@ ขอนมัสการครับ ผอ.แห่งสันติภาพ
@ ภาพหลัง คุณนายอลิสา สิเนหะสาร ส่งมาให้ ท่านเป็นภรรยาของนายทหารอากาศยศพลอากาศเอก มือขับ เอฟ ๑๖ ถล่มฝ่ายตรงข้าม สมัยสงครามเวียตนาม เคยมาฝึกสมาธิตามหลักสูตรครูสมาธิ ของหลวงพ่อวิริยังค์ ที่บ้านบรรณรุจิ
ท่านเล่าว่าไปเที่ยวอิหร่าน พบเด็กนักเรียนเลยขอถ่ายรูปด้วย โดยทดลองสวมฮียาบ ดู ท่านบอกว่ามุสลิมอิหร่านน่ารัก มีความคิดเป็นสากล พร้อมจะอยู่ร่วมดับใครได้ทั่วโลก ผู้หญิงมุสลิมอิหร่านมีความยืดหยุ่นแต่ไม่กละหลวม และไม่สวมฮียาบท้งหมด ถึงสวมก็สวมแบบน่ารักไม่น่ากลัวอะไร
ผมเห็นด้วยกับพี่อลิสา ..
@ แต่ก็อดคิดถึงมุสลิมไทยไม่ได้ ทำไมต้องมีกติกากฏเกณฑ์เยอะเหลือเกิน จนดูเหมือนว่าจะอยู่ร่วมกับใครบนแผ่นดินนี้ไม่ได้ ถ้าไม่ทำตามฉัน ฉันต้องขอแยก ศาลก็ขึ้นศาลไทยไม่ได้ต้องแยก ...อาหารจะกืนก็ต้องฆ่าแบยอิสลาม ฆ่าแบบพุทธไม่ได้ ...พื้นที่ที่มีอิสลามมากจะมาสร้างอะไรของพุทธไม่ได้ แต่ในพื้นที่ที่มีพุทธมาก มุสลิมสร้างได้ อ้างกฏหมายรัฐธรรมนูญ อ้างสิทธิมนุษยชั้นพื้นฐาน อ้างสารพัดอ้าง สุดท้ายก็อ้างฉันเป็นคนไทย ทั้งๆที่พูดไทยไม่ได้ในหลายพื้นที่ ไม่รู้ว่ารัฐบาลทหาร กับฝ่ายความมั่นคงไปหูหนวกตาบอดอยู่ที่ไหน ในที่สุดชาวบ้านอดรนทนไม่ไหวเลยต้องลุกมาดูแลกันเอง ...และก็คงจะดูแลไปอีกนาน
@ ลึกๆแล้วเป็นห่วงนักศึกษาผู้หญิงสองคนว่าจะเป็นอย่างไร ? นักเพื่อสันติคนไหนจะมาขู่ให้ตกใจหรือเปล่าไม่รู้ ? ก็ขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย
@ หรือถ้าจะให้ช่วย ก็คงบอกได้แต่ว่า หากอึดอัดใจก็มาที่สันคิศึกษาได้ พระอาจารย์หรรษาพร้อมคุยให้สบายใจ ผมเชื่อ
Comments