"อีกครั้งที่เข้าประชุมร่วมกับพี่น้องมุสลิมนักธุรกิจและชาวมหาวิทยาลัย มีแต่ไมตรีและวิชาการ ไม่มี
- banjobchannel
- Dec 28, 2016
- 1 min read
@ ว่าอันที่จริงแล้ว เรื่องศาสนา หากมองในแง่ของการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ แต่ละศาสนาก็มีดีที่จะปรับให้อยู่ร่วมกันได้ แม้จะต่างความเชื่อต่างความเห็นกัน แต่คนมีศาสนาก็สามารถปรับความต่างนั้นให้อยู่ในระดับที่พูดคุยกันได้@ แล้วอะไรเล่า ? ที่ทำให้ความต่างกลายเป็นการโต้แย้งทะเลาะวิวาทและถึงขึ้นลงมือห้ำหั่นกันด้วยอาวุธ อย่างโหดเหี้ยมซึ่งผิดวิสัยของมนุษย์
@ คำตอบก็คือ ความยึดมั่น ความยึดมั่นนี้ต้องวิเคราะห์ให้ดี หากยึดมั่นแบบสมาทานฝึกหัด (สมาทาย สิกฺขติ) เพื่อลดละก็เลสนั้นดี เพราะมาจากสติสัมปชัญญะ แต่ถ้ายึดมั่นแบบอุปาทานไม่ดีเพราะมาจากกิเลสยึดถือตัวกูของกูเป็นหลัก แล้วผลคือการทะเลาะวิวาท
@ ผมมาประเทศมุสลิมคราวนี้ประชุมร่วมกับนักธุรกิจและนักวิชาการมุสลิมระดับมหาวิทยาลัย บรรยากาศดี ต่างฝ่ายต่างพูดเรื่องต่างๆที่สัมพันธ์กับศาสนา แต่ไม่แสดงความเป็นศาสนาจ๋าออกมา ทุกฝ่ายเก็บศาสนาไว้ในใจและไปแสดงออกในที่ที่เหมาะสม เช่น ผมไปไหว้พระสวดมนต์ในห้องของผม พวกเขาก็ไปทำละหมาดในห้องของเขา
@ ผมทึ่ง นักวิชาการมุสลิมบรรยายเรื่องคันธาระและยอมรับว่าเป็นดินแดนเก่าของพระพุทธศาสนาอย่างไม่ปิดบัง พร้อมทั้งเอกสารโชว์พระพุทธรูปคันธาระหราเลย ไม่เห็นมีใครรังเกียจหรือกลัวว่าจะเป็นบาป
@ ยังทึ่งขึ้นอีก เมื่อเขาคุยเรื่องนรกสวรรค์ เขาเป็นทันตแพทย์ แต่คุยเรื่องศาสนาเก่งมาก ถามเรื่องพระพุทธเจ้า เรื่องศาสดาพยากรณ์ ผมตอบเขาว่า ศาสนาพุทธไม่มีพระเจ้าผู้สร้าง ไม่มีศาสดาพยากรณ์ แต่มีพระโพธิสัตว์ เขากับภรรยารับฟัง และตอบในประเด็นที่ผมถามตามความรู้ความเชื่อและความเห็นที่เขมี ซึ่งผมก็ตั้งใจฟัง
@ ผู้หญิงมุสลิมในประเทศนี้ก็เห็นหน้าตาดี แต่งตัวแบบสากลบ้างชาตินิยมบ้าง ที่สวมฮิยาบ ก็ดี ไม่สวมก็มี ก็ไม่เห็นเขาตำหนิอะไรกัน น่าแปลกในบางประเทศเอาเป็นเอาตายกับเรื่องนี้ อ้างว่าผิดหลักศาสนาเป็นบาป ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ผู้หญิงปากีตกนรกครึ่งประเทศ แต่ถ้ไม้จริง แสดงว่าเขาใช้เป็นข้ออ้างทำให้เกิดความแตกแยก ...ลองศึกษาดู
@ บรรดาหนุ่มมุสลิมหน้าตาเป็นมิตรเข้ามาทักทายขอถ่ายรูปด้วย พวกเขาคือนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมารดาน เรียนเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นวิชาเอก ...คงเป็นเพราะการศึกษาสมัยใหม่ทำให้เขาเข้าใจโลกไม่สุดโต่ง
@ มี้เด็กเล็กๆ อายุ ๓ - ๘ ขวบตามพ่อแม่มาด้วย ร่าเริงน่ารัก สีหน้าแววตาสดใส ช่างต่างกับเด็กมุสลิมในหลายประเทศที่ติดพันเรื่องสงคราม จนกระทั่งเด็กไม่เป็นอันใช้ชีวิตเด็ก บ้านแตกสาแหรกขาด ต้องระหกระเหินหนีตาย พลัดลูกพลัดแม่พลัดพ่อ ..น่าเวทนา
@ ผมประหลาดใจ ทำไมมุสลิมไทยส่วนที่เป็นผู้นำศาสนาและนักการเมืองจึงแข็งกร้าวกับพุทธไทยเหลือเกิน ?
@คำตอบก็คือ ๑. เราชาวพุทธวางใจในการรักษาให้แก่พระสงฆ์มากเกินไป พระสงฆ์เองก็วางใจในการยกย่องที่ชาวพุทธไทยให้มากเกินไปจนกลายเป็นประมาทและทะนงตัว ๒. เราปล่อยวางด้านศาสนาจนกลายเป็นความขี้เกียจละเลยและโง่เกินไปอย่างที่มุสลิเขาว่า ๓.เราปล่อยให้เขาขู่มากเกินไป ๔. เราชาวพุทธกล้าได้แล้ว อย่าปล่อยให้ใครต่อใครแสดงอัตลักษณ์เพื่อความแตกแยกต่อไปเลย เพราะนั่นคือการโกหกหลอกลวง เพื่อให้เขาได้ประโยชน์ ๕. การหละหลวมในคำสอนของศาสนาเพื่อผลประโยชน์ กับ การยึดมั่นในศาสนาจนสุดโต่งเพื่อผลประโยชน์ มีผลคือเลวไม่แพ้กัน ..
Comments