"แล้วก็มาถึงตักกสิลา ประทับใจ ! มุสลิมปากีอนุรักษ์พุทธสถาน พรจากใจก่อนกลับไทย ปีใหม่นี้ขอให้มุส
- Banjob Channel
- Dec 31, 2016
- 1 min read
@ วันนี้...ถึงคิวต้องไปชมตักกสิลา เมืองในฝัน ที่ผมอยากมานานแล้ว ได้แต่อยาก แต่ไม่คิดว่าจะได้มา เพราะปัจจุบันอยู่ในปากีสถาน ประเทศมุสลิม ซึ่งโลกภายนอกมองดูน่ากลัว
@ ทำไมผมจึงอยากมาตักกสิลา ? ความจริง ผมอยากไปทุกที่ที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ตักกสิลาเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าตรงที่พระพุทธเจ้าไม่เคยเสด็จไป แต่กลับมีเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นมากมาย
@ครั้งพุทธกาล ตักกสิลาเป็นศูนย์กลางการศึกษามีสถาบันการสอนวิชาการถึง ๘๐,๐๐๐ แห่ง มีนักศึกษามาจากทั่วชมพูทวีป หมอชีวกพระราชนัดดาของพระเจ้าพิมพิสาร แลเป็นพระโอรสของเจ้าชายอภัยกับสาลวตีนครโสเภณีคนแรกของแคว้นมคธได้มาจบวิชาแพทย์ที่นี่ เจ้าชายหลายพระองค์ไมว่าเจ้าชายพิมพิสารแห่งแคว้นมคธ เจ้าชายปเสนทิโกศลแห่งแคว้นโกศล เจ้าชายมหาลิแห่งแคว้นวัชชี และเจ้าชายพันธุละแห่งแคว้นมัลละ ต่างก็มาจบวิชาการปกครองที่นี่ด้วยกัน
@ หลังพุทธกาล หลังจากอเล็กซานเดอร์ยกทัพมาเยือนตักกสิลาสมัยจันทรคุปต์พระเจ้าปู่ของพระเจ้าอโศก (พ.ศ.๑๕๐)แล้ว พระเจ้าพิมพิสารกับพระเจ้าอโศกผู้โอรสก็พยามสร้างความเป็นปึกแผ่น รวมแคว้นคันธาระไว้เป็นแผ่นดินเดียวกับชมพูทวีปส่วนอื่นๆ
@ พระเจ้าอโศกทรงส่งสมณทูตสายหนึ่งมาถึงที่นี่ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๙ ตอนนั้นคันธาระถูกผนวกรวมไว้กับกัศมีระ พระธรรมทูตต้องทำงานหนักมาก ประชาชนที่นี่ในส่วนที่เป็นกัศมีระถูกเรียกว่า "นาค" ซึ่งน่าจะหมายถึงชาวเขา ที่เชี่ยวชาญเรื่องมนต์ต่างๆ พระอรหันต์หัวหน้าสายต้องใช้ฤทธิ์ปราบจึงจะยอมฟังเทศน์ และฟังธรรมแล้วก็ศรัทธายอมรับนับถือพระพุทธศาสนา
@ หลังยุคพระเจ้าอโศก ชาวต่างชาติก็ยกมัพมาเยือนกัศมีรคันธาระอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายต้องย้ายเมืองหลวงใหม่ไปอยู่ที่เปศวาร์ (เดิมคือ ปุษปปุระ เมืองดอกไม้ ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของชื่อ คันธาระ แปลว่า แคว้นที่มีกลิ่นหอม) ชาวต่างชาติที่ว่า คือ พวกสกิเดียน พวกปาเถียน จากเปอร์เซีย พวกฮั่น ผลัดกันครองคันธาระและสุดคือพวกกุษาณ ซึ่งมีพระราชาชางพุทธที่ยิ่งใหญ่คือ พระเจ้ากนิษกะ ก่อนที่จะมาเสียแผ่นดินแก่กองทัพมุสลิม
@ เราคงไม่ไปพูดถึงเหตุการณ์ตอนนั้นอีกแล้ว...แต่น่าจะพูดถึงเหตุการณ์ตอนนี้ ...ตอนที่มุสลิมปากีปรับตัวด้วยการศึกษาสมัยใหม่
@ ต้องยอมรับว่า..การศึกษาสมัยใหม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตคน ผู้หญิงอินเดียยุคอังกฤษปกครองเริ่มมีอิสระ ปฏิเสธการแต่งงานแบบคลุมถุงชนได้ ก็เพราะการศึกษาสมัยใหม่
@ ปากีสถานก็เช่นกัน ตอนที่อังกฤษยึดครอง ยังรวมอยู่กับอินเดีย จึงได้รับการศึกษาสมัยใหม่ด้วย ซึ่งก็มีอิทธิพลทำให้คนปากีทั้งชายหญิงเป็นมุสลิมสมัยใหม่เปิดใจหูตากว้างไกล ผลจึงออกมาเป็นอย่างทุกวันนี้คือต้องการทำงานร่วมกับคนทั้งหลายในโลก ไม่จำกัดตัวเองให้สุดโต่งและคับแคบอยู่แต่กับสังคมมุสลิมเท่านั้น
@ ทั้งตักขต์- อิ-บะหิ และ ตักกสิลา ซึ่งได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลก หากคนปากีสถานไม่มีการศึกษาสมัยใหม่อย่างปัจจุบันก็คงไม่คิดรักษา ดีไม่ดีจะพาลทุบทิ้งหมด เหมือนอย่างที่พวกสุดโต่งตาลีบันทำกับพระพุทธรูปบนเขาเมืองบามียัน
@ คนปากีที่เปิดใจรับการศึกษาสมัยใหม่ทุกวันนี้ กระตือรือร้นที่จะเสนอตัวเองแก่คนต่างชาติ ทุกเช้าที่ผมกับเพื่อนๆคนไทยลงมานั่งกินข้าวเช้าที่ลอบบี้ จะมีคนปากีหลากหลายอาชีพมาทักทายแจกนามบัตรพร้อมทั้งเสนอตัวเองที่จะทำงานร่วมด้วยในสาขาอาชีพต่างๆ
@ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นผลดีในการที่จะอยู่ร่วมกัน ผมกับพวกจึงชวนกันนั่งสมาธิและแผ่เมตตาให้ปากีสถานมีความสงบสุขที่ยั่งยืน
@ ก่อนกลับเมืองไทย ผมกับเพื่อนๆคุนกันว่าจะกลับมาปากีสถาน มาเยี่ยมตักกสิลาอีกครั้ง คราวนี้อาจมาพร้อมกับหลายคนที่เข้าใจ ซึ่งจะมาไหว้พระธรรมราชิกสถูปที่ตักกสิลาและไปปีนเขาขึ้นเยี่ยมพุทธสถานที่ตักขต์-อิ-บหิ
@ ในวันสุดท้ายของปีเก่านี้ ขอให้พระคุ้มครองมุสลิมปากีมีความสุขตลอดไป
Commentaires