"เศรษฐกิจพอเพียงในภาคปฏิบัติ คนบ้านนอกเข้าถึงได้ แต่แค่ไหน ? แล้วคนเมืองจะปฏิบัติอย่างไร ในเมื่
- banjobchannel
- Nov 19, 2016
- 1 min read
@ ได้ยินเรื่องเศรษฐกืจพอเพียงกันมานาน แต่เมื่อต้องการคำอธิบาย จะมีใครช่วยให้เข้าใจได้บ้าง เพราะในภาคปฏิบัติระหว่างคนบ้านนอกหาเช้ากินค่ำกับคนในเมืองที่กินเงินเดือนย่อมต่างกันแน่นอน
@ เมื่อคืนดูข่าวก่อนนายกฯประยุทธพูด เห็นรายงายว่า โครงการเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัว สหประชาชาติยอมรับและแพร่หลายไปในหลายประเทศ ทั้งในเอเชียและอาฟริกา ซึ่งส่วนมากที่เอ่ยชื่อมาล้วนเป็นประเทศยากจน จึงทำให้ได้แง่คิด...
@ ตามความเห็นของผม เศรษฐกิจพอเพียงตามทึ่ทรงมีพระราชดำริไว้ให้นั้นใช้สำหรับคนบ้านนอกที่ทำไร่ไถนา มีที่ดินเป็นของตนเอง หรือหากไม่มีที่ดินเป็นของตนเองก็ต้องเช่าเขาทำ เพราะโครงการนี้ใช้ที่ดินเป็นหลักตั้งแต่เริ่มแรก เนื่องจากต้องเริ่มต้นด้วยการแบ่งที่ดินเป็นสัดส่วน คือ แบ่งเป็นที่อยู่อาศัย เป็นที่นาสำหรับปลูกข้าว เป็นที่ดินสำหรับปลูกผักสวนครัว เป็นที่สำหรับขุดบ่อเลี้ยงปลา เป็นที่สำหรับเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ ๓ ส่วนหลังนี้ พระเจ้าอยู่หัวทรงแนะนำไว้ ๒ ทาง คือ ไว้กินเองในครัวเรือนเป็นเบื้องต้น กับ ไว้ขายเมื่อมีมาก
@ เมื่อ ๓๐ กว่าปีมาแล้ว คนบ้านผมเกิดมีความนิยมเรื่องค้าขายพืชผัก เพราะทางการทำคลองชลประทานใหม่ๆ ตื่นเต้นกันใหญ่ เพราะทำนาได้ปีละ ๒ ครั้งเป็นอย่างน้อย ..ทำนาแล้ว ระหว่างที่รอข้าวสุกก็ขยันกันน่าดู ทำสวนปลูกผักควบคู่ไปด้วย ทำแล้วก็กินกันไม่หมดเนื่องจากปลูกมาก เลยเอาออกมาขาย ขายแล้วก็ไม่มีใครซื้ออีก เพราะต่างคนต่างปลูก ทุกคนไม่รู้จักเศรษฐิจพอเพียงในภาคทฤษฎีอย่างที่พระเจ้าอยู่หัวทรงแนะนำ แต่ในภาคปฏิบัติ เขาทำอยู่ แต่ส่วนใหญ่ทำตามกัน ไม่รู้ว่าราชการหรือใครไปแนะนำให้ปลูกผัก เลยยกโขยงปลูกกันใหญ่ "ทุกวันนี้ บ้านเรามีแต่คนขาย ไม่มีคนซื้อ ทุกบ้านเป็นพ่อค้าแม่ค้ากันหมดแล้ว" พี่สาวผมเปรยให้ฟัง ตอนผมไปเยี่ยม ผลสุดท้าย เมื่อขายไม่ได้ก็กินไม่หมด ต้องปล่อยเน่าทิ้ง
@ อีกเรื่องหนึ่ง ที่ภาคอีสาน มีหมู่บ้านหนึ่งที่ได้รับโครงการเลี้ยงไก่ไข่พระราชทาน..ชาวบ้านขานรับพระมหากรุณาธิคุณกันเป็นทิวแถว เลี้ยงไก่ไข่กันทั้งหมู่บ้าน...ตามพระราชดำริ คือ ไว้กิน กับ ไว้ขาย ปีรุ่งขึ้น พระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับไปเยี่ยม ทรงสังเกตเห็นเด็กๆ บางบ้านผอม บางบ้านอ้วน ...จึงรับสั่งถามว่า ถึงการเลี้ยงไก่ ก็ทรงได้รับคำตอบต่างๆกัน สรุปแล้ว คือ บ้านที่เด็กอ้วน เพราะพ่อแม่ได้ไข่ไก่แล้วเอามาทำอาหารให้ลูกๆกิน ส่วนบ้านที่เด็กผอม เพราะพ่อแม่ทำตรงกันข้าม คือได้ไข่ไก่แล้วเอาไปขาย ได้เงินแล้วก็เอาไปซื้อมาม่ามาให้ลูกๆกิน
@ คำถามของผมก็คือ คนบ้านผมกับคนภาคอีสาน มีพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวกัน แต่รู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์แค่ไหน ...เขามีที่ดืน มีใจทำ แต่เขาทำตามพระราชดำริได้ไม่ครบถ้วน เขาขาดอะไร ?
@ ตรงนี้แหละ ที่น่าศึกษา ...เศรษฐกิจพอเพียงกับคนบ้านนอก จะทำอย่างไรให้ได้ผลสัมฤทธิ์ตามที่ทรงมุ่งหวัง ? สำหรับคนเมืองไม่มีที่ดินกินเงินเดือนจะปรับใช้อย่างไร ? ส่วนคนมีเงินปล่อยเขา ก็ให้เขาหาความพอเพียงด้วยตัวเขาเอง แต่อย่าให้เอาเงินมาทำลายความพอเพียงของคนจนก็แล้วกัน
@ ที่ร่ายยาวมาทั้งหมด ก็เพื่อให้ท่านผู้อ่านช่วยหาช่องว่างด้วยว่า พระพุทธศาสนาจะเข้าไปช่วยเสริมได้อย่างำร ? คำสอนของพระพุทธเจ้าชุดไหนจะเข้าไปช่วยเสริมจุดอ่อนและเพิ่มจุดแข็ง ? ชาวพุทธมีทั้งจนและรวยต้องปฏิบัติอย่างไร จึงทำให้โครงการนี้แก้ไขปัญหาของชาติได้ ?
@ เพื่อนผมอยากได้แนวคิดไปทำให้เป็นรูปธรรม เพราะเขาเชื่อมั่นว่า โครงการนี้กู้ชาติได้ ..หากทำให้คนจนไม่ทิ้งถิ่น แต่อย่าบอกนะครับว่า ให้เลี้ยงแพะก็พอ คนไทย(ที่ใครต่อใครพยายามเรียกว่า คนสยาม เพื่อให้เกิดความแปลกแยกและเกลียดชังกัน) ไม่นิยมแพะ ...ไม่นิยมกินนมแพะ และไม่ต้องการให้แพะมารับบาปแก้ความจนให้คน เพราะมันอาจหมายถึง การสิ้นแผ่นดิน สิ้นศาสนาได้ ระวังฤทธิ์แพะให้ดี
@ อ้าวกลับมาที่คำถามเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงจะดำเนินการอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล ต่อคนส่วนใหญ่ ช่วยตอบหน่อยครับพี่น้อง...
Comments