"ไตรที่ ๒ (ขยายความ) เบญจธรรม ต้องหนุน เบญจศีล พุทธไทยพลาด ที่เน้นแต่ศีล ไม่สนใจธรรม และก็ไม่เอ

@ (ภาพทีเห็น วันไปกราบหลวงป๋า เมื่ออาทิตย์ที่ ๒๐ พ.ย. ๒๕๕๙ ที่วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ. ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี เมืองเกิดผม หลวงป๋าต้อนรับคณะเราทั้งด้วยอามิสปฏิสัณฐารและธรรมปฏิสัณฐาร )

@ ศีล กับ ธรรม เป็นของคู่กัน "ธรรม" (คุณธรรม)เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ จึงเรียกว่า ธรรม คือ ความจริงที่มีอยู่เสมอ ส่วน "ศีล" เป็นข้อบัญญ้ติที่สร้างขึ้นหลังจากประพฤติตามธรรมไม่ได้ ดังนั้น ศีล ในลักษณะนี้จึงเป็น "ข้อห้าม"

@ สังคมไทยหยิบศีลที่เป็นข้อห้ามมาสร้างเป็นระเบียบปฏิบัติอย่างที่ฝรั่งเรียกว่า "tradition" จึงถูกกำหนดให้เป็นศาสนพิธี ดีงนั้น งานไหนงานนั้นจะต้องมีการรับศีล แต่เพราะเป็นศาสนพิธีจึงทำกันเป็นพิธี พอพิธีเลิกก็เลิกกัน ศีลจึงถูกทิ้งไปกับงาน แล้วก็ไปรับศีลใหม่ในงายใหม่ วันไหนมี ๓ งานก็รับทั้ง ๓ งาน แล้วก็ทิ้งหมดทั้ง ๓ งาน ผลที่ได้รับคือสังคมไทยไร้ศีล ไร้ระเบียบ และวุ่นวายไม่รู้จบ

@ "มุสลิมแกนนำ" (ไม่เกี่ยวกับมุสลิมชาวบ้าน) เขาเห็นจุดนี้จึงเกิดอหังการคิดดูถูกชาวพุทธไทยอย่างเราว่าไม่เอาศาสนาจริง จึงพยายามแสดงความเป็นตัวตนมุสลิมออกมาให้ชัดเจน เช่น - ต้องแต่งชุดมุสลิมทั้งหญิงชาย - ทำกิจกรรมร่วมกับพุทธไม่ได้ -หนักข้อไปกว่านั้นคือกินอาหารที่ชาวพุทธไทยผลิตไม่ได้ ต้องมุสลิมผลิต หรือถ้าพุทธผลิตต้องมีตราฮาลาล จึงเป็นที่มาของการอ้างว่าต้องมีพระราชบัญญัติฮาลาล ต้องมีนิคมอุตสาหกรรมฮาลาล ...

ทั้งๆที่เนื้อแท้แล้ว เขาไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าเราเลย คุณธรรมขั้นพื้นฐาน เช่น ความใจกว้าง ความมีเมตตา ยังทำได้ไม่ตลอด

แต่เขาก็อ้าง ช่วยกันอ้าง จนชาวพุทธไทยกล้วหงอ... ยิ่งทหารก็ยิ่งกลัวใหญ่ พอเห็นจุฬาราชมนตรีมา รีบวิ่งออกไปรับ แทบตกบันไดทำนียบตาย แต่ที่กับชาวพุทธล่ะขู่เอา...ขู่เอา...ขู่จนชาวพุทธต้องฮึดสู้ ไม่งั้นไม่เลิก

@ ผมต้องขอบคุณมุสลิม ที่แสดงต้วตนความเป็นมุสลิมชัดเจน จนน่ากลัว แต่เอาเข้าจริงก็มีแต่แกนนำมุสลิมไทยนี่แหละที่ทำอย่างนั้น มุสลิมประเทศไหนก็ไม่เห็นเขาอหังการขนาดนี้

มุสลิมไทยฉลาด...เขาร่างแผนยึดไทยและจะเปลี่ยนไทยเป็นพุทธมานานแล้ว แต่เราไม่ใส่ใจ แถมหัวเราะเยาะคนที่พูด ทหารเองก็ไม่ใส่ใจ ทั้งๆที่ขุนทหารยุคเก่าอย่างพลเอกหาญ นีลานนท์ พลเอกกิตติ รัตนฉายา อดีตแม่ทัพภาค ๔ กล่าวเตือนไว้นานแล้ว แต่นักการเมืองก็ไม่ใส่ใจ ทั้งนี้เพราะอะไร ? ก็เพราะมุสลิมฉลาด โดยเฉพาะมุสลิมจากอาหรับ เขาสอนกันมา...

"หากไปอยู่ประเทศไหน ให้ยึด ๒ สถาบันไว้ คือ ราชสำนัก กับ รัฐบาล พยายามเข้าถึงให้ได้ แล้วจะได้หมด..."

ผมคงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะความจริงที่กำลังเกิดขึ้นเป็นตัวอธิบายความได้เป็นอย่างดี...จนผมเกิดความรู้สึกว่า คนไทยเข้าใจผิดมาตลอดว่า เวลาเจองูกับแขก ให้ตีแขกก่อน แขก คือ แขกอินเดีย แต่เอาเข้าจริงน่าจะหมายถึง

แขกอาหรับ (ที่เป็นแกนนำศาสนา) มากกว่า

@ การได้ไปพบเพื่อนต่างชาติมากๆ ในช่วงเวลาสองปีนี้ ทำให้ผมมั่นใจว่า เราต้องหันเข้าวิถีพุทธให้มาก รณรงค์เรื่องศีล ๕ ดีแล้ว แต่ต้องเพิ่มธรรมให้ไปหนุนศีล เราจะได้มีศีลโดยธรรมชาติ มีศีลแบบยาวนาน ดีกว่ารับแล้วรับอีก แต่รักษาไม่ได้อย่างที่ผ่านๆมา

@ พรุ่งนี้จะพูดเรื่องธรรมหนุนศีล