ธรรมะของนักบริหารชุดที่ ๒ "พรหมวิหาร ๔ ธรรมะของผู้เป็นใหญ่ - ธรรมะเสริมของนักบริหาร สำหรับปลูก
- banjobchannel
- Nov 30, 2016
- 1 min read
(เป็นภาพเหตุการณ์ เมื่อ ๒๙ พ.ย. ๕๙ ไปร่วมต้อนรับและส่งคณะธรรมยาตรา ร่วมกับคณะรองอธิบดีกรมทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ที่วัดเชิงเลน พระนครศรีอยุธยา พอดีเป็นวันพระ หลวงพ่อเจ้าอาวาส เมตตาต้อนรับด้วยข้าวก้นบาตร อร่อบดี...กลับเป็นเด็กวัดอีกครั้ง เลยมาลงไว้ให้ดู ได้พรหมวิหารธรรมขึ้นอีกเยอะ)
@ เมื่อวานกล่าวถึงสัปปุริสธรรม ๗ ไปแล้ว หลายคนอาจคิดว่าพอแล้ว ความจริงไม่พอ เพราะทั้ง ๗ ข้อนั้นคือปัญญาล้วนๆ ซึ่งแม้จะได้มาจากวิปัสสนาซึ่งมีสมาธิกับศีลหนุนอยู่ แต่ในการใช้งานซึ่งเกี่ยวข้องกับคนที่มีชีวิตใช้ปัญญาอย่างเดียวไม่พอ ยังต้องใช้ความรัก ความสงสาร ความแสดงความยินดีด้วย และความเป็นกลางๆสำหรับ ปรับ ความรัก ความสงสาร และความยินดีด้วย ให้มีความเหมาะสม ดังนั้น พรหมวิหารจึงต้องนำมาใช่คู่กับปัญญา
@ พรหมวิหาร ว่าตามไวยากรณ์ จะแปลว่า การอยู่อย่างพรหม การอยู่ของพรหม ที่อยู่ของพรหมก็ ก็ได้ เพราะมาจากคำ พฺรหฺม กับ วิหาร แต่เมื่อกล่าวถึงชุดธรรม ๔ ข้อ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แล้ว โบราณาจารย์แปลว่า ธรรมเครื่องอยู่ของพรหม / ธรรมเครื่องอยู่ของผู้เป็นใหญ่
@ คำถามก็คือ ทำไมต้องแปลอย่างนั้น ? ทำไม วิหาร ต้องแปลว่า ธรรมเครื่องอยู่ ? พรหม แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ ได้หรือ ? คำตอบ ๑.พรหม มาจากรากศัพท์ว่า พฺรหฺ มีความหมายว่า ใหญ่ เช่นในคำว่า พฺรหฺรุกฺโข ต้นไม้ใหญ่ ส่วน ม มาจาก มนฺตุ เป็นปัจจัยต่อท้าย อาจใช้บอกสถานะของคำได้ว่าเป็น noun หรือ adjective ในที่นี้ให้เป็น noun และไทยนิยมรูปเดิม คือ พฺรหฺม แต่ออกเสียงสะดวกลิ้นของไทยว่า พรหม (พรม) คือ เทวดาชั้นสูงซึ่งได้ฌานตั้งแต่เป็นมนุษย์ จะเห็นว่ารากศัพท์ของคำนี้ ใช้กับ ต้นไม้ ได้ ก็ย่อมใช้กับคนและสัตว์และสิ่งของได้ ทั้งเป็นรูปธรรมและนามธรรม
๒. วิหาร ทึ่แปลว่า ธรรมเครื่องอยู่ แสดงว่า มีธรรมหลอยตัว หลายข้อ ซึ่งในที่นี้รวมเป็นชุด (set) เพราะ คำว่า "เครื่อง" ใช้ในความหมายว่า หลายสิ่งแยกย่อยมารวมกันสำเร็จเป็นสิ่งเดียว อาจมีตัวหลักตัวรองหนุนกันอยู่ อย่างธรรม ๔ ข้อ ต่างคนต่างมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปรุงแต่งจิต เช่น เมตตาก็อย่างหนึ่ง กรุณาก็อย่างหนึ่ง มุทิตาก็อย่างหนึ่ง อุเบกขาก็อย่างหนึ่ง แต่มารวมกันเป็นเครื่องปรุงแต่งจิตให้สำเร็จเป็นคุณธรรมชุด "พรหมวิหาร"
พูดถึงตอนนี้ ผมอยากจะแปลเพิ่มว่า "ธรรมเครื่องอยู่ของจิตที่ยิ่งใหญ่" เพราะถ้าแปลว่า ธรรมเครื่องอยู่ของผู้เป็นใหญ่ ก็อาจตีความผู้เป็นใหญ่ว่า หมายถึง เจ้านาย หรือ นักปกครอง อย่างเดียว ผู้น้อย หรือ เด็ก ไม่เกี่ยว แต่ถ้าแปลว่า ธรรมเครื่องอยู่ของจิตที่ยิ่งใหญ่ จะได้ความหมายกว้างมาก คือ
๑. จะเข้ากันได้กับ มหัคคตจิต ที่ใช้ในอภิธรรม ได้แก่ จิตที่ถึงความยิ่งใหญ่ จิตที่มีกำลังมาก คือ จิตที่มีสมาธิสูงมากถึงขึ้นได้ฌาน เป็นจิตมี่มีพลังมาก เข้มแข็ง ธรรม ๔ ข้อนี้ใช้เจริญสมาธิให้เกิดฌานได้ ตายแล้วส่งให้ไปเกิดเป็พรหม
๒. ทุกคนมีสิทธิ์จะมีจิตที่ยิ่งใหญ่ได้ ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร ยากดีมีจน คนมียศศักดิ์หรือไม่มียศศักดิ์ ราชาหรือสามัญชน
@ เนื้อหาของหลักธรรม
เราคงเคยได้ยินคำว่า พรหมวิหาร "มีสัตว์เป็นอารมณ์" อาจจะเข้าใจยาก เลยขอทำความเข้าใจก่อนว่า คือ เป็นคุณธรรมที่ต้องแผ่ไปในสิ่งมีชีวิต ซึ่งมีประสาทรับรู้ได้ เน้นไปที่คนเทวดาและสัตว์ ซึ่งพระพุทธศาสนาเรียกรวมๆว่า "สัตว์" (สตฺต บาลี, สตฺตฺว สันสกฤต) ตรงกับที่ภาษาอังกฤษว่า "being" เพราะเป็นตัวหลักของการเป็นอยู่ ส่วนต้นไม้ใบหญ้าถือเป็นตัวรอง
๑. เมตตา ความรัก แสดงออกด้วยความปรารถนาให้ผู้ที่ตัวรักมีความสุข เห็นได้ง่ายชัดเจน คือ ความรักระหว่างพ่อแม่กับลูก
๒. กรุณา ความสงสาร แสดงออกด้วยความปราถนาให้ผู้ที่ตัวสงสารพ้นจากทุกข์ ที่เขากำลังเผชิญ
สังเกตดูให้ดีนะ คุณธรรม ๒ ตัวนี้ยังอยู่ในฐานะเป็นตัวปรุงแต่งจิตให้คิดทำ แล้วตัวไหนล่ะ ที่จะต้องปลูกฝังไว้ในจิตให้เป็นพื้นฐาน
ลองหาคำตอบดู
Comments