"พระวิเทศปุญญาภรณ์-เจ้าคุณใหม่ในรัชกาลใหม่ พระเด่นเลือดศรีษะเกษ-ทายาทสมเด็จเกี่ยว บุกเผยแพร่พระ
- banjobchannel
- Dec 3, 2016
- 1 min read
@ ปีนี้ พระที่รู้จักกันหลายรูปได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ ซึ่งอยากจะกล่าวถึงทุกท่าน แต่เนื้อที่และเวลาไม่พอ เอาเป็นว่าวันนี้ขอทำตัวกลางๆ กล่าวถึงพระครูจากยุโรปก็แล้วกัน เพราะท่านเป็นเจ้าคุณแดนไกล เป็นการถวายกำลังใจท่าน
@ พระวิเทศปุญญาภรณ์ มีนามเดิมว่า บุญทิน เป็นชาวจังหวัดศีรษะเกษ บวชเณรตั้งแต่จบชั้นประถม ด้วยความอุตสาหะเดินทางเข้ากรุงเทพ เดชะบุญได้มาอยู่ในร่มบารมีของสมเด็จพระพุฒาจารย์ หรือที่ชาวพุทธนิยมเรียกด้วยความเคารพรักว่า "สมเด็จเกี่ยว" และเรียนต่อที่ มจร. จบปริญญาตรีแล้วถูกส่งไปเป็นพระธรรมทูตสายยุโรปเป็นเวลากว่า ๒๐ พรรษา มีผลงานประจักษ์ชัดคือสร้างวัดไทยในยุโรปได้ถึง ๕ วัด ด้วยความสามารถนี้แหละทำให้ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ "พระครูสุตพุทธิธัช" แปลว่า "พระครูผู้ชูปัญญาที่เกิดจากการศึกษาหาความรู้เป็นธงชัย"
@ หน้าที่ของพระธรรมทูตคือ เผยแผ่พระพุทธศาสนา ทั้งในหมู่คนไทยและชาวต่างชาติเจ้าของประเทศ หากต้องการทำงานเพื่อรักษาศรัทธาคนไทยไว้ก็ไม่ค่อยหนักเท่าไร แต่ถ้าต้องการวางรากฐานพระพุทธศาสนาให้อยู่ในยุโรปได้ในระยะยาวและมั่นคงต้องเหนื่อยหนัก..ต้องลงทุนเรียนภาษาท้องถิ่นให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงสอนธรรมะสอนกรรมฐาน
@ แปลกนะ ! พระธรรมทูตรูปไหนรูปนั้นจะยืนยันตรงกันว่า ถ้าจะให้ชาวยุโรปเข้าถึงพระพุทธศาสนาจริงๆ ต้องใช้วิชากรรมฐานดึง วิธีสอนกรรมฐานที่ดีต้องยังไม่พูดถึงพระพุทธเจ้าพระธรรมพระสงฆ์ ที่ดีคือให้เขา "เจริญสติ" ไปก่อน เมื่อได้ผลแล้วเขาจะถามเองว่า พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ คือใคร ?
@ พระครูสุตพุทธิธัช หรือ ในสมณศักดิ์ใหม่ชั้นเจ้าคุณ ก็คือ พระวิเทศปุญญาภรณ์ ก็เข้าใจงานตรงนี้ได้ดี จึงมุ่งพัฒนาเรื่องกรรมฐานควบคู่กับการสร้างถาวรวัตถุที่พออยู่าศัยได้ แต่เน้นให้สะอาด สวยงาม ราบเรียบ
@ ตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านเจ้าคุณเดินทางไปทั่วยุโรป รู้จักมิตรต่างศาสนามากมาย โดยเฉพาะกับรัฐบาลของแต่ละถิ่น เจ้าคุณจะได้รับการตอบรับที่ดีเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจ
นี้สะท้อนถึงงานของพระธรรมทูตรูปอื่นๆในลักษณะเดียวกัน ผมเห็นพระธรรมทูตไทยในต่างแดนทำงานแล้วก็อดคิดถึงเมืองไทยเราไม่ได้...ตอนอยู่เมืองไทย ท่านเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ฉายแววแห่งความเก่งออกมาเลย แต่พออกไปอยู่ต่างประเทศห่างไกลพระผู้ใหญ่ได้รับมอบหมายจากมหาเถรสมาคมให้ทำงานแทนหูแทนตา ท่านแสดงความสามารถกันเต็มที่ ...สร้างวัดเอง จัดกิจกรรมเอง เทศน์เอง สอนเอง บริหารวัดเอง
@ พระวิเทศปุญญาภรณ์ หรือ ท่านเจ้าคุณบุญทิน ก็มีลักษณะเดียวกันนี้ ท่านทำเองเกือบทั้งหมด จึงเป็นที่โปรดปรานของเจ้าประคุณสมเด็จเกี่ยว แม้บัดนี้จะสิ้นสมเด็จฯไปแล้ว ท่านเจ้าอาวาสวัดสระเกศรูปใหม่พระเดชพระคุณพระพรหมสิทธิก็ยังเมตตานอกจากในฐานะศิษย์ร่วมสำนักร่วมอุปัชฌาย์ร่วมมหาวิทยาลัยแล้ว ก็ยังในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงในสายงานอีกด้วย เพราะพระพรหมสิทธิคือผู้ไดรับบัญชาจากมหาเถรสมาคมให้บังคับบัญชาพระธรรมทูตสายยุโรปทั้งหมด
@ นอกจากความรอบรู้เชิงบริหารแล้ว ท่านเจ้าคุณบุญทินยังมีวิสัยทัศน์ใช้ฐานของพระพุทธศาสนาสร้างความสำคัญใก้แก่ชาติไทยและสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย นั่นคือในหลวงรัชกาลที่ ๕ เคยเสด็จประพาสสวีเดนเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว จึงใช้โอกาสนี้สนองพระเดชพระคุณด้วยการตั้งศูนย์กรรมฐานเฉลิมพระกียรติว่า
"Chulalongkorn Meditation Practice Centre, Buddharam Temple Boden, Sweden"
ณ อาคารสีทอง ซึ่งเป็นอาคารของค่ายทหารสวีเดน ท่านเจ้าคุณได้มาเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดสมบูรณ์แล้ว และสามารถใช้ประโยชน์ในการทำงานด้านศาสนาได้เต็มที่ โดยไม่มีความขัดแย้งกับศาสนาคริสต์ ซึ่งเป็นศาสนาของท้องถิ่น เพราะไม่ได้ไปบังบังคับเขาให้ต้องออกกฏหมายรองรับศาสนาของต้วเอง เพื่อความได้เปรียบ และถ้าจะไปบังคับให้ทำเช่นนั้น รัฐบาลสวีเดนก็คงไม่โง่พอจะให้ทำ เนื่องจากคนสวีเดนไม่ยอมแน่ ผิดกับบางประเทศในเอเชีย...
@ พระครูสุตพุทธิธัชจะได้รับโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นพระราชาคณะอย่างสมบูรณ์ในที่ พระวิเทศปุญญาภรณ์ ในวันที่ ๕ ธันวาคม นี้ ซึ่งความหมายตามพระราชทินนาม คือ "พระผู้มีบุญที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศเป็นอาภรณ์"
@ ขอพระวิเทศปุญญาภรณ์จงเจริญในธรรมเป็นนิตย์เทอญ
Comentarios