top of page
Recent Posts
Featured Posts

" พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ"

  • banjobchannel
  • Nov 16, 2016
  • 1 min read

@ ผมมาสอบสารนิพนธ์ที่วัดมหาธาตุ ได้ยืนมองวัดพระแก้วแล้วประนมมือไหว้เหมือนหลายๆครั้งที่เคยทำ คราวก่อนๆไหว้พระแก้วกับพระคุณของอดีตพระบุรพมหากษัตริย์เป็นที่ตั้ง แต่มาคราวนี้ ผมขอถวายเคารพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือพระมหากษัตริย์ในพระบรมโกศด้วย

@ ผมเกิดไม่ทันตอนที่มีการประกอบพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก จึงไม่ได้เห็นความสุขของคนไทยในยุคนั้น ซึ่งเล่ากันว่า คนไทยต่างมีความสุขมาก เหมือนลูกกำพร้าที่ได้พ่อคืน

@ เรื่องราวทำนองนี้แหละทำให้ผมถามตัวเองว่า ทำไมคนไทยจึงเรียกพระราชาของพวกเขาว่า พระเจ้าอยู่หัว ?

ผมคิดอยู่นาน แล้วคำตอบที่พอได้ก็คือ คนไทยถือหัวเป็นอวัยวะสูงสุด ฉะนั้นเมื่อรักใครเคารพใครมากก็จะยกไว้เหนือหัว ดังมีคำว่า พ่อเหนือหัว แม่เหนือหัว แล้วคำว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาได้อย่างไร ? ผมก็คิดไปตามประสาของผมอีกว่า คนไทยเคารพพระราชาของเขามากถึงขนาดยอมยกพระบาทไว้เหนือหัว

แต่ต่อมาพบหลักฐานว่า วลีนี้มีคำที่ขาดหายไป คือ พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว ซึ่งครั้งแรกก็งง แต่มาพบอีกว่า วลีสำคัญนี้เกิดขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายอันเป็นยุคที่มีการปกครองแบบ "พุทธราชย์" คือ นับถือพระราชาเป็นเหมือนพระพุทธเจ้า โดยนัยนี้ คงต้องอธิบายตามคำสอนมหายานที่ว่า พระพุทธเจ้าในรูปของธรรมกายที่เรียกว่า "อาทิพุทธะ" (พระพุทธเจ้าองค์ต้น) ซึ่งอวตารหรือแบ่งภาคมาเกิดในรูปต่างๆเพื่อช่วยเหลือโลก

ชาวอยุธยายุคนั้นน่าจะรับคติความเชื่อแบบนี้เต็มเปา จึงยอมเรียกพระเจ้าราชาของตนว่า พระพุทธเจ้าหลวง แต่เนื่องจากพระพุทธศาสนาประจำชีวิตของพวกเขา คือ เถรวาท จึงปรับความเชื่อใหม่ว่าพระราชาคือพระพุทธเจ้าในชาติที่กำลังบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ จึงเมื่อถึงยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นจีงเรียกพระราชาว่าพระโพธิสัตว์ ดังปรากฏในงานเขียนเรื่อง สังคีตืยวังสะ (งานวรรณกรรมบาลีเรื่องแรกของกรุงรัตนฌโกสินทร์) ซึ่งเรียกพระพุทธยอดฟ้าและพระอนุชาธิราชว่า "เทฺว โพธิสตฺตา - พระโพธิสัตว์ ๒ พระองค์" และมีคำถวายพระพรในเวลาต่อมาว่า "พระบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า" หมายถึง พระราชาผู้สั่งสมพระบารมีเพื่อพระโพธิญาณ ซึ่งก็หมายถึง พระโพธิสัตว์นั่นเอง

และเมื่อเราศึกษาชาดก (เรื่องอดีตชาติของพระพุทธเจ้า) ก็จะพบว่าพระพุทธเจ้าพระองค์นี้เกิดเป็นกษ้ตริย์หลายต่อหลายชาติ ยิ่งใน ๑๐ ชาติสุดท้ายทรงเกิดเป็นกษัตริย์ตั้ง ๗ ชาติ

@ ตามธรรมเนียมของพระโพธืสัตว์ย่อมเคารพพระพุทธเจ้า เพื่อแสดงคตินี้ให้ชัดเจน นักปฏิมากรรมฝ่ายมหายานจึงปั้นรูปพระโพธิสัตว์มีรูปพระพุทธเจ้าประดับที่มวยผมด้านหน้า ส่วนเถรวาทไม่มีรูปปั้นเช่นนั้น มีแต่ระบุว่าพระโพธิสัตว์ประเภทนิยตะ คือ แน่นอนว่าจะได้ตรัสรู้โดยไม่มีการเปลี่ยนใจ จะยอมถวายชีวิตแด่พระพุทธเจ้าได้เลย

@ ด้วยเหตุผลนี้จึงมีคำเรียกพระราชาของไทยว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว ซึ่งหมายถึงว่า พระราชาผู้เคารพพระพุทธเจ้าถึงขั้นยอมเอาหัวของพระองค์รองรับพระบาทของพระพุทธเจ้า แต่บัดนี้กร่อนไปเหลือเป็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

@ สิ่งที่น่าคิดต่อไปก็คือ วลีว่า ข้าพระพุทธเจ้า ซึ่งพสกนิกรใช้เรียกตัวเองเวลากราบทูลกีบพระราชา ซึ่งมีความหมายว่า ข้าของพระพุทธเจ้า การที่กำหนดให้พสกนิกรเรียกต้วเองเช่นนั้น อาจจะมาจากความเชื่อว่าพระราชาคืออวตารของพระพุทธเจ้าอาทิพุทธะ หรืออาจจะมาจากความเชื่อว่า พระราชาทรงกำหนดให้พสกนิกรผู้เลื่อมใสพระพุทธศาสนาเป็นข้าของพระพุทธเจ้าตามพระองค์ไปด้วย

@ สรุปแล้ว พระราชาของไทยแต่ไหนแต่ไรมาก็ทรงเป็นพุทธ ดังนั้นข้อความในรัฐธรรมมนูญว่า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ (ชาวพุทธ) จึงเป็นหลักฐานยืนยันได้ดี แลคำนี้มีอำนาจพอที่จะให้พูดได้ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศพุทธ มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแระจำชาติ เพราะอะไร ? ก็เพราะว่าเมื่อมีพระมหากษัตริย์พุทธเป็นประมุขของชาติ แล้วจะไม่ใช่มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติละหรือ

@ เสียดายว่า ชาวพุทธไทยเราไม่จริงจังกับพระพุทธศาสนา จึงปล่อยให้ใครต่อใครลากอีลู่ถูกังไปว่า ไม่ใช่ พูดอย่างนั่นไม่ได้ เพราะไม่มีลายลักษณ์อักษรในรัฐธรรมมนูญรองรับ แล้วเราก็เชื่อ และหลงติดกับอยู่กับการดิ้นรนให้เขาเขียนให้เรา

@ จากนี้ไปไม่ต้องง้อใครแล้ว ลุกมาเถิดชาวพุทธทั้งหลาย มาทำทุกอย่างด้วยพลังของเราเอง เพื่อถวายให้เป็นพระกียรติยศแก่พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ให้สมกับที่พระองค์ทรงเป็นพุทธมามกะผู้ยิ่งใหญ่


 
 
 

Comments


Search By Tags
Archive

ติดต่อประสาน

ฝ่ายข่าวสารข้อมูล BanJob Channel Today News

Email:BanJobChannel@Gmail.com

Copyright © 2016 BanJob Channel Today News  is not responsible for the content of external sites. 

bottom of page